Skip to main content

ความว่างงานที่ทำให้ฉันมีความสุข


 สวัสดีชาวโลกของดรุณีทุกคน วันนี้ดรุณีตื่นแต่เช้า ในเมืองที่สับสนวุ่นวายอย่างกรุงเทพ เป็นเช้าวันที่ห้า ของคนว่างงาน ...

ดรุณีไม่ได้ ถูกไล่ออก หรือเลิกจ้างเหมือนคนอื่นเลย เพียงแต่ว่า ออกมา แลกกับสุขภาพจิตของตัวเอง ...

“ว่างงาน สบายใจ แต่ก็ไม่มีเงิน”

จริงๆ มันก็หนักใจคนละแบบนั้นแหละ เพราะการดำรงชีพภายใต้ค่าครองชีพที่สูงอย่างกรุงเทพแล้ว ใครจะบ้าออกจากงานแบบดิฉันตอนนี้

ในความบ้านั้น ฉันก็ได้ค้นพบการใช้ชีวิตบนความสุขและอะไรที่ชอบจริงๆ ซึ่งดิฉันอยากแชร์ให้ทุกคนได้ฟังดังนี้

1.     ฉันชอบความอิสระ และมันทำให้มีความสุข อิสระ คือ การไม่ขึ้นอยู่กับใคร อย่างเช่น คุณแม่สิตางค์กล่าวไว้ เธอไม่ต้องเครียดว่าวันนี้ เธอจะทำอะไรผิดรึเปล่า เธอสามารถทำอะไรที่อยากจะทำได้ง่ายดาย เพราะเธอเป็นหัวหน้าเธอเอง

2.      มีเวลาให้ตัวเองมากขึ้น – 24 ชั่วโมงของฉัน ไม่ต้องไปเสียเวลากับรถติด เบียดเสียดกับคนบนรถไฟฟ้า และฉันมีเวลาให้กับงานเขียนเต็มที่

3.     ค้นพบอะไรที่อยากทำ ใช่ ฉันเจอมัน ฉันไม่ได้อยากอยู่ในองค์กรที่เลิศหรู แต่กลับบ้านมาร้องไห้ทุกวัน ฉันเพียงแค่ อยากเขียนอะไรที่ฉันชอบ ทุกคนอยากอ่านงานเขียนของฉัน พร้อมกับชมมันว่า ฉันเกทเธอ

4.     รักตัวเองมากขึ้น ฉันมีเวลาให้ตัวเองได้ลองทำสิ่งที่ฉันอยาก ฉันเคารพตัวเอง พอใจในตัวเอง และชื่นชมตัวเอง ซึ่งไม่มีใครมาว่าฉันแปลก ไม่เข้าพวก หรือเอาตัวฉันเองไปเปรียบเทียบกับใคร ถึงแม้ว่าเราเกิดมาจากต่างพ่อแม่แล้ว เราก็โดนผู้คนมีมาตรวัดคุณภาพการทำงาน ซึ่งจิตใต้สำนึก บอกว่านั้นมันไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ

5.     อยากไปไหนก็ไป ฉันได้เอาเวลารถติด และการรอรถไฟนานๆนั้น มาทบเวลาเที่ยวของฉัน วันที่อยากออกเดินทาง ก็ไม่ต้องรอให้ถึงทุกวันเสาร์อาทิตย์ เพียงแค่มีความอยาก แพคกระเป๋า และออกเดินทางไปได้เลย ...

จริงๆแล้วมันมีมากกว่านี้นะ แต่กลัวเธอจะอ่าน และรีบออกจากงานกันเสียก่อน ฮ่าๆๆ หากเธอเจองานที่ดี เพื่อนร่วมงานที่ใช่ หัวหน้าที่โอเค และ สิ่งแวดล้อมที่ดี ขอให้เธอรู้ว่า เธอโชคดีมาก และรักษามันไว้ เพราะตลอดช่วงชีวิตวัยทำงาน เธอต้องใช้ชีวิตกับพวกเขามากที่สุด

 

Happy Working! X

ดรุณี



Comments

Popular posts from this blog

Dear My 2020

Happy New Year 2020 !!!!!!!!!!!!!!!!! เป็นไงกันบ้างทุกคน ผ่านไปแล้วเดือนมกราอันโหดร้ายของพวกเรา รวมทั้ง ตัวของดรุณี ด้วย ...   เราทุกคน การเวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยน รวมทั้งความคิดที่ โตเป็นผู้ใหญ่ เรากลับมาที่บล็อกของตัวเองอีกครั้ง เราเริ่มทำบล็อกตั้งแต่ปี 2014 จนปีนี้ 2020 ยาวไกลเหลือเกิน เราได้หายไปใช้ชีวิตอยู่สักพักใหญ่ เรียนจบ ทำงาน ย้ายงาน จนค้นพบในสิ่งที่ตัวเอง ชอบ และไม่ชอบ อีกไม่กี่วัน อายุก็จะเลย 25 แล้ว รู้สึก หัวใจมันหวั่นไหว แบบบอกไม่ถูก ....   จากการหายไปสักพักใหญ่ สิ่งที่ค้นพบ ในวัย 25 ปี 1.        เวลามันไม่ย้อนกลับมา ถึงแม้เราจะอยากให้มันหวนกลับมา ครั้งแล้วครั้งเล่า ปฏิเสธไม่ได้เลย เมื่อไรที่เราคิดถึงคนในอดีต แล้วไม่ร้องไห้ เรามีนาฬิกาเป็นของตัวเอง มันกำลังเดินไปข้างหน้าทุกวัน ทุกวินาที เราไม่สามารถห้ามมันหยุดเดินได้จริงๆ หากมันบังเอิญหยุด เราก็ต้องยอมรับ การจากลา ... ผ่านมาห้าปีแล้ว คนในความทรงจำในวัยเด็กของดรุณี หายไป บ้างคนได้ลา แต่บ้างคนก็ไม่ได้กล่าวลากันเลย นาฬิกาของพวกเขาหยุดเดิน แต่นาฬิกาของดรุณียังคงดำเนินอยู่ ...

รีวิว Japan Sink 2020 (日本沈没) : วิปโยค วันสิ้นเกาะ บน Netflix

ผู้แต่ง   Sakyo Komatsu ที่มา     จากนิยาย สู่ อนิเมะ   เนื้อเรื่องโดยย่อ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวหนึ่งที่เอาชีวิตรอดจากภัยพิบัติที่ญี่ปุ่น ซึ่งระหว่างทางพวกเขาต้องเจออุปสรรคต่างๆมากมาย และสูญเสียครอบครัว พร้อมทั้งเพื่อนของตนเองไป   มุมมองของแอดมิน ด้านดี เป็นอนิเมะที่สะท้อนถึงบทบาทครอบครัวได้ดีนะ การเสียสละชีวิต เพื่อคนที่อ่อนแอกว่าเรา เห็นการแบ่งปัน มีน้ำใจ ช่วยเหลือคนอื่น ด้านแย่ หากมองอีกด้านหนึ่ง คิดว่า ตัวละครหลักอย่างอายูมิ หากไม่ถือคติซื่อตรงเกินไป และกินยากอยู่ยาก ก็อาจจะไม่ทำให้คนรอบข้างตายไปด้วยก็ได้ ดังนั้นหากเราเห็นแก่ตัวกันบ้าง ชีวิตเราอาจจะไม่ต้องจบชีวิตเพื่อคนอื่น 

บั น ไ ด

บั น ไ ด (ขอบคุณ ภาพจาก http://mhai.exteen.com/20110913/entry  ) หากพูดถึงบันไดแล้ว หลายๆคน คงจำไม่ได้หรอกว่า เราผ่านบันไดมากี่ขั้นแล้ว กี่ชั้นแล้ว กี่อันแล้ว และกี่ความสูงแล้ว ...  ทุกวันๆ เราไม่ได้นับด้วยซ้ำว่า เราขึ้นแล้วลงกี่รอบต่อวัน  ดังนั้นบันได ก็ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ยกเว้นเสียจากบุคคลที่ทำงาน บนภาคพื้นที่ราบเรียบ หากเราเป็นนักเรียน ก็ไม่แปลกอะไรที่ต้องขึ้น ลง บันไดอยู่บ่อยครั้ง ทั้งแบกกระเป๋าหนักๆที่เต็มไปด้วยหนังสือหนาปึก อย่างกะหินหนักๆ ส่วนวัยทำงานก็คงไม่จำเป็นต้องขึ้นแล้วล่ะ เพราะเรามีลิฟต์ใช้แล้ว ดังนั้นบันไดก็สำคัญเฉพาะลิฟต์ไม่ทำงาน หรือ เกิดเหตุอัคคีภัย คุณลองคิดว่า ความฝันของคุณ อยู่สูงเกินตึกสิบสองชั้น แต่ไม่มีบันไดขึ้นไป คุณได้แต่เงยหน้ามองมัน อยู่อย่างงั้น คุณจะทำเช่นไร ความฝันมันไม่มีลิฟต์ ที่ให้ขึ้นไปหรอก และมันก็ไม่ได้สะดวกสบายขนาดนั้น และนั้นก็คือเหตุผลที่ทำไมเราเรียกว่าความฝัน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับบันไดล่ะ ก็เพราะทุกคนมีความฝัน ... บันไดจึงสำคัญ ดังนั้น เราทุกคนต่างก้าวขึ้นบันไดของตนเองทุก...